/*----Yahoo site map-------*/ /*----Bing site map-------*/

ค้นหาอะไรก็เจอ

วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คำทำนายของพระพุทธเจ้า

เมื่อปี พ.ศ.2485 แปลจากศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมหาเชตวัน

สาธุ อะระหังสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเมตตามหาสัพสัตว์ทั่วโลก ที่เกิดมาแล้วแต่ลำบาก ทั่วหน้าทุกชาติ ทุกศาสนาตามธรรมชาติ เมื่ออาตมาเข้านิพพานแล้วครบ 5000 ปีเป็นที่สุด โลกจะหมุนเข้าใกล้จำนวนที่ คถาคตทำนายไว้ 2500 ปีมนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสียหนึ่งส่วน ในระยะ 30 ปี สิ่งที่สาธุชนไม่เคยเจอะจะได้เห็น ไม่เคยพบจะได้พบ ยักษ์หินที่ถูกสาบให้หลับกลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก ใกล้กับ พ.ศ.2550ยิ่งทวีกันใหญ่ขึ้นทุกทิวาราตรี มนุษย์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันจนถึงเลือดตนเองนองเต็มพื้นดิน พื้นน้ำจะลุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลาย เหมือนยักษย์ กระหายเลือด แผ่นดินจะลุกเป็นเปลวไฟ ต่างฝ่ายจะตายไปอย่างละครึ่งหนึ่งจึงจะล้มเลิก

ส่วนพุทธศาสนิกชน ผู้ทำแต่บุญเดินตามทางตถาคต สามารถระงับร้อนรุ่มรุนแรงแต่หนีภัยพิบัติไม่พ้น ไฟจะลุกลามทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณะชีพราหมณ์ จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้า เหล็กกล้าจะผุดจากน้ำ สงครามจะเกิดทั่วทิศ ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวสารจะขาดแคลน ทุกแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง สีเหลืองจะชนะ สีขาวจะแพ้ภัยในที่สุด ครุฑจะบินกลับฐาน คนจะกลับบำรุงพระ



คำเตือน

โลกมนุษย์กำลังเข้าสู่กาลียุค จะทำให้เกิดภัยธรรมชาติ จากดิน น้ำ ลม ไฟ จะเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สามตามมา มนุษย์จะตายไปกว่าครึ่ง

สำหรับประเทศไทย จะเริ่มตั้งแต่ปี 2550 คาดว่าจะได้รับภัยทางน้ำ และ ไฟ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดชายทะเล และกรุงเทพฯ แผ่นดินจะยุบตัว คลื่นน้ำจะพัดเข้าถล่มมีความสูงกว่า 200 เมตร มนุษย์จะล้มตายมากกว่าครึ่ง น้ำจะเข้าช่องแคบสระบุรี และทางด้านตอนล่างของโคราชบางส่วน ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สุดท้าย ประเทศไทยจะเหลือประชากรประมาณ 30 %

ส่วนประเทศอื่นทั่วโลกจะเหลือเพียง 10% ประชาชนผู้รอดชีวิตส่วนมากจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไม่ปลอดภัยเหมือนเมืองที่นับถือพระพุทธศาสนา เพราะไม่เข้าใจบำเพ็ญฌานภาวนา ฉะนั้นอย่าหลงใหลในทรัพย์สินของตนให้มากนัก เพราะเมื่อเข้าสู่ยุคศิวิไล เงินทองจะไม่มีค่าเลย เพราะ มนุษย์ยุคนั้นจะเข้าวัดกันที่ความดี ศีลธรรม ปีมะโรง พ.ศ.2555 ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556 ปีระกา พ.ศ.2560 พ.ศ.2561 ปีกุน พ.ศ.2562 คำทำนายของสมเด็จ พุทฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

รัชกาลที่ 1 ทายว่า มหากาฬ (ทำลายเพื่อน พี่น้อง)
รัชกาลที่ 2 ทายว่า ฌาณยักษ์ (ชำนาญเวทมนต์)
รัชกาลที่ 3 ทายว่า รักมิตร (มีการค้ากับต่างชาติมากมาย)
รัชกาลที่ 4 ทายว่า สนิทคำ (ออกบวช)
รัชกาลที่ 5 ทายว่า จำแขนขาด ( เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง และเขมร เพื่อปกป้อง อธิปไตย)
รัชกาลที่ 6 ทายว่า ราชโจร (เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดกลุ่มโจรมากมาย มีการตั้งกองเสือป่าครั้งแรกของเมืองไทย)
รัชกาลที่ 7 ทายว่า ชนร้อนทุกข์ (เกิดการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย)
รัชกาลที่ 8 ทายว่า ยุคทมิฬ (พระเจ้าแผ่นดินถูกลอบปลงพระชนม์)
รัชกาลที่ 9 ทายว่า ถิ่นกาขาว (มีฝรั่งเข้ามามากมาย นำเงินมาซื้อประเทศไทยให้เกิดวิกฤตการเงิน)
รัชกาลที่ 10 ทายว่า ชาวศิวิไลย์ (จะมีเหลือเฉพาะผู้ที่มีบุญเท่านั้นที่รอคอย เป็นยุคของพระศรีอริยเมตไตย)

“โลชังชม โทโพโส อินโกรุณา”

หมายเหตุ: บทความนี้ผู้จัดทำได้ทำการคัดลอกมาจากเมลล์ ไม่ได้ทำการเขียนขึ้นเอง โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

นับถอยหลังถึงวันเปลี่ยนโลก

0 ความคิดเห็น

โลกแบบเก่า กำลังจะสิ้นสุดหรือสิ้นยุคลงไปแล้วหรือ?

หลายทศวรรษที่ผ่านมา โลกมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดจากยุคการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ จนถึงยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม และสู่ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศหรือยุคดิจิตอลในปัจจุบัน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและกระทบถึงกันทั่วโลกเรียกว่า โลกาภิวัตร (globalization)

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ เห็นได้ชัดเจนและส่อว่าจะรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ ภัยพิบัติธรรมชาติเกิดถี่ขึ้น และ มีผลกระทบต่อวัฏจักรต่าง ๆของโลก ทั้งดิน น้ำ ลม อากาศ และอุณภูมิความร้อน การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศอันเป็นผลมาจากอุณภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นของมหาสมุทร ส่งผลกระทบทำให้บางแห่งฝนตกหนักมาก แต่พื้นที่บางแห่งแห้งแล้งอย่างรุนแรง และมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทั้งพืชและสัตว์ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ก่อให้เกิดแผ่นดินแตกแยก แผ่นดินยุบตัวหรือก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่มีความสูงหลายสิบเมตร ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์ในทุกภูมิภาคของโลก

ผู้นำของโลกและนักวิทยาศาสตร์ที่มีข้อมูลจากการวิเคราะห์วิจัยด้วยทฤษฎีต่าง ๆ ตระหนักถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้นจึงพร้อมใจกันออกมาเตือนภัยแก่ชาวโลก หยุดภาวะวิกฤติเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์และทุกชีวิตบนโลกก่อนที่จะสายเกินแก้

จากนี้ไปจนกว่าจะถึง 21/12/2012 แนวโน้มแห่งภัยพิบัตินานาประการ ที่จะเกิดขึ้นกับโลกทั้งโลก ในระดับวันพิพากษาโลกหรือวันสิ้นโลก มันกำลังคืบคลานเข้ามาสู่โลกและมวลมนุษย์ชาติชัดขึ้น แรงขึ้น และเร็วขึ้นทุกที หรือจะเป็นวันเปลี่ยนโลกจริงๆ เวลานับถอยหลังของโลกเรามาถึงแล้ว!

21/12/2012 วันสิ้นโลกจริงหรือ?

1 ความคิดเห็น

มีคำทำนายที่ว่า ในปี 2012 โลกจะแตก หรือเป็นวันสิ้นโลก พร้อมกับมีหนังสือหลายเล่มและสื่อหลายแขนงออกมาให้ข้อมูล บทความ และการแสดงความคิด ความเห็น ทั้งสนับสนุนและวิพากษ์วิจารย์กันอย่างกว้างขวาง ทำให้คนทั่วโลกมีโอกาสรับรู้ถึงเหตุผลจากคำทำนายดังกล่าวซึ่งเป็นของชาวมายา ชนเผ่าเก่าแก่ที่มีความแม่นยำในเรื่องของดาราศาสตร์ และระบบสุริยะ คำพยากรณ์ของชาวมายาได้จากการสังเกตุการณ์ทางดาราศาสตร์เป็นเวลานานกว่า 2,000 ปี กล่าวว่า เที่ยงคืนวันที่ 21/12/2012 จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่จะมาพร้อมกับเลือดและความทรมาน รวมทั้งความหวังและอนาคต มีทฤษฎีเสริมคำทำนายอีกว่า ปี 2012 จะเป็นปีอันสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปีที่เกิดกลียุค หรือเป็นจุดเริ่มต้น สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่มีเหตุการณใดในประวัติศาสตร์มนุษย์เทียบได้เลย

ดูจากสภาพปัจจุบันของโลกว่า มีภัยคุกคามอันเนื่องมาจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของดิน ฟ้า อากาศ หรือภัยคุกคามจาก "ภาวะโลกร้อน"ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของโลกหลายรายเช่น ดร.เจมส์ อี.เลิฟล็อค (Dr.James Ephraim Lovelock ) ได้พยายามอธิบายภาพจินตนาการต่าง ๆ ตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ในหนังสือของตนและพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี ค.ศ.2006 ว่า "ในอนาคตอันใกล้จะเกิดความเลวร้ายต่อโลกของเรา อย่างน้อยก็มากกว่า 2 เท่าจากที่เคยเกิดขึ้นในยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย การโจมตีกลับของธรรมชาติครั้งนี้ จะรุนแรงกว่ายุคที่เคยเชื่อกันว่า ได้ทำให้มนุษย์นีแอลด์เดอร์ธัล ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ก่อนมนุษย์เรา ต้องสูญพันธุ์มาแล้ว.."

สภาพของโลกที่ ดร.เจมส์ คาดการณ์ต่อไปว่า "มันจะเกิดยุคแห่งความร้อน ที่จะร้อนกันชนิดโลกทั้งโลกปราศจากน้ำแข็งแทบโดยสิ้นเชิง และสิ่งที่จะตามมาอย่างไม่น่าเชื่อหรือคาดไม่ถึง คือ พายุร้ายที่จะทวีความรุนแรงสุดขีดและมีอันตรายถี่ยิ่งขึ้นๆ ปริมาณป่าฝนหลายต่อหลายพื้นที่ในโลก จะถูกแปรสภาพให้กลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมโดยเฉียบพลัน สลับกับการเป็นพื้นที่ที่แห้งผากแบบเดี่ยวกับทะเลทรายใจกลางทวีปออสเตรเลีย ณ เวลานั้น ประชากรโลกนับพัน ๆล้านคน จะไร้ที่อยู่อาศัย ไร้ที่ทำกิน ไร้อาหารอย่างที่ไม่มีใครช่วยเหลือได้ จะต้องล้มตายลง หลังจากนั้น โลกจะร้อนจัดหรือหนาวจัดอีกเพียงใดยากที่จะทำนายได้ สุดท้ายโลกใบนี้จะไม่มีทางกลับมาเป็นโลกที่ให้ความสุข ความสงบ ความร่มเย็นได้อย่างที่เราเคยรู้จักอีกต่อไป "

ส่วนนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกอีกท่านคือ ดร.เดวิด นาบาร์โร ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด แห่งองค์การอนามัยโลก ออกมาสรุปไว้ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2003 " ภายในศตวรรษนี้..ประชากรโลกจะต้องเผชิญกับโรคระบาดทั้งโรคแบบใหม่และโรคระบาดแบบเดิมที่จะกลับมาระบาดใหม่ ไม่น้อยกว่า 180 ชนิด ถ้าหากไม่สามารถควบคุมได้ อานุภาพในการสังหารของมันจะร้ายแรงและสามารถคร่าชีวิตผู้คนได้อย่างมหาศาล.."

การประชุมว่าด้วยสภาวะโลกร้อน ในปี ค.ศ. 2001 นายร็อบ วัตสัน ประธาน IPCC ได้วาดภาพจินตนาการให้บรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆที่เข้าร่วมประชุมเห็นว่า "ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า..ประชาการแทบทุกพื้นที่ในโลกนี้จะต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ และการแพร่กระจายของโรคระบาด..ความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศในโลก จะนำมาซึ่งหายนะต่อมวลมนุษยชาติอย่างไม่อาจประเมินได้ .."

ปรัชญาชาวตะวันออกเช่น อี้จิง ซึ่งเป็นัมภีร์ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของจีน เทววิทยาแบบฮินดูและความเชื่อของชาวพื้นเมืองต่างๆ สามารถตีความเพื่อสนับสนุนวันสิ้นโลกในปี 2012 ได้

มีการตีความคัมภีร์ไบเบิลที่พยากรณ์ไว้ว่าโลกจะถึงจุดจบในปี 2012 ชาวมุสลิม คริสต์ ยิว จะมีการเคลื่อนไหวเพื่อเข้าสู่สงครามครั้งสุดท้าย
ยังมีข้อมูลที่ได้นำเสนอเป็นบทความ สารคดี ภาพยนต์ ตลอดจนการแสดงความคิดเห็น ข้อเท็จจริงที่สามารถพิสูจน์ยืนยันด้วยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์อีกมากมาย เผยแพร่ในเว็บไซต์หลายพันหลายหมื่นเว็บไซต์ที่จะสืบค้นนำมาหาคำตอบ แต่ก็ยังมีคำถามของชาวโลกที่ค้างคาใจอยู่อีกว่า " 21/12/2012 จะเป็นวันสิ้นโลกจริงหรือ ? "

วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สัญญาณวันสิ้นโลก

0 ความคิดเห็น

สัญญาณวันสิ้นโลกในทัศนะของอิสลามนั้นมีดังนี้...

สัญญาณเล็ก ได้แก่:

1. แผ่นดินไหวจะมีมาก
2. ลมพายุจะรุนแรง
3. ความตายจะดาษดื่น(จากโรคร้าย) และความตายโดยฉับพลัน
4. มนุษย์จะแข่งกันประดับประดา มัสยิด
5. คนโกหกจะได้รับความเชื่อถือ คนพูดจริงกลับถูกมองว่าโกหก
6. คนทุจริตจะปลอดภัย คนไว้วางใจกลับถูกบิดพลิ้ว
7. การผิดประเวณี(ซีนา)จะเกิดขึ้นอย่างมากมาย
8. สุรา ดอกเบี้ย เป็นสิ่งอนุมัติ
9. ในมัสยิด จะมีเสียงอึกทึก
10. คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน
11. ความวุ่นวายจะเกิดทุกหัวระแหง
12. ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก
13. อุตริกรรม(บิดอะห์)จะปรากฏชัด
14. ความอายจะน้อยลง
15. สตรีจะประพฤติตัวเหมือนบุรุษ ส่วนบุรุษจะประพฤติตัวเหมือสตรี
16. สตรีจะนุ่งน้อยห่มน้อย
17. ผู้ทุจริตจะได้รับการช่วยเหลือ ผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง
18. ผู้คนจะอ่านอัลกรุอานอย่างไพเราะ (ขาดการปฏิบัติตาม)
19. การนินทาให้ร้ายจะมีมาก
20. การสาบานด้วยสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺจะมีมาก



21. การหย่าร้างจะเกิดขึ้นมาก
22. ความชั่วช้าเลวทรามจะปรากฏชัด
23. มนุษย์จะปฏิบัติตามอารมณ์ กิเลสและตัณหา
24. บุรุษจะถูกทำลายเพราะทรัพย์สินเป็นเหตุ
25. มนุษย์จะตัดญาติขาดมิตร
26. สมาธิของคนละหมาดจะหายไป
27. ประชาชาติจะแตกแยกออกเป็น 70 กว่าจำพวก
28. วันและเวลาจะสั้นลง จนกระทั่งปีหนึ่งเหมือนหนึ่งเดือน และเดือนหนึ่ง เหมือนหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์เหมือนหนึ่งวัน>
29. การแต่งงานมีขึ้นเพราะสมบัติเป็นเหตุ
30. เรื่องราวของมนุษย์ ล้วนเป็นความโลภโมโทสัน
31. การตลาดจะฝืดเคือง
32. การให้เกียรติจะน้อยลง แต่การเหยียดหยามจะมากขึ้น
33. ความรับผิดชอบจะหายไป
34. ศาสนาจะถูกซื้อขายด้วยวัตถุทางโลก(ดุนยา)
35. หัวใจมนุษย์หมดสิ้นจากความดี
36. ทานบังคับ(ซะกาต)ถูกนำมาจ่ายเป็นค่าแรง
37. บุรุษจะฆ่ากันโดยไร้เหตุผล
38. ความรู้จะถูกเก็บ คนโง่จะขึ้นแสดงธรรม(บนมิมบัร)
39. เด็กที่เกิดจากการผิดประเวณีจะมีมาก
40. คนที่มีลูกหลานต้องโศกเศร้า เพราะการเนรคุณ
41. สตรีจะทำหน้าที่แทนบุรุษ
42. เด็กจะไม่ให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะไม่เมตตาเด็ก
43. ความบริสุทธิ์ใจจะหายไปจากการงาน
44. คนชั่วจะภูมิใจ และโอ้อวดความชั่วของตน
45. การพนันจะมีมาก
46. ผู้บริสุทธิ์จะถูกฆ่าเป็นการล้างแค้น(ไม่ใช่การรับใช้ชาติ)
47. มนุษย์จะถูกเรียกร้องสู่ขุมนรกและหันเหออกจากการภักดีต่ออัลลอฮฺโฆฤ


สัญญาณใหญ่ ได้แก่ :

1. อิหม่ามมะห์ดีจะปรากฏตัว
2. ดัจญาลเผยโฉม
3. ท่านศาสดาอีซาจะถูกส่งลงมาสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
4. ยะอฺญูดและมะอฺญูด จะพังกำแพงทะลุออกมาได้
5. มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน
6. ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
7. มีหมอกเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน
8. เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คนไปรวม ณ. สถานชุมนุม
9. อัลกรุอาน และความรู้จะถูกเก็บ(โดยการล้มตายของผู้รู้)
10. อัลกะอฺบะฮฺพังทลาย

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตื่นเถิด คิดบำเพ็ญยังไม่สาย

ตื่น คิดบำเพ็ญยังไม่สาย

คัดลอกมาจากบางส่วนของหนังสือชื่อ “ตื่น คิดบำเพ็ญยังไม่สาย-1” ของวิถีอนุตตรธรรม
(หนึ่งในนิการเซน – มหายาน)

ขอน้อมกราบอัญเชิญพระโอวาท

พระอนุตตรธรรมมารดาเจ้า สิบบัญญัติ
ที่มาเกี่ยวกับกาลนี้เพื่อส่งเสริมแก่กัน
----------------------------------------------------
พระอนุตตรธรรมมารดาเจ้าสิบบัญญัตินำบทข้อที่ห้า
“ชะตาฟ้าดำเนินถึงปลายยุค
เภทภัยทุกข์ลำบากทั่วหัวระแหง
เก้า-เก้าภัยใครรอดพ้นความรุนแรง
ธรรมนาวาแล่นช่วยชาวโลกโดยทั่วกัน”
“ขอเตือนลูกพุทธบุตรเดิม น้อมบำเพ็ญ
รู้กำหนดเกณฑ์เจตนาฟ้า เป็นปราชญ์ได้
กัปสุดท้ายเกิดคู่กัน ธรรมกับภัย
เปลี่ยนหญิงชายทั้งฟ้าดิน สิ้นยุคกาล

หากบัดนี้ไม่มีภัย ลงเก็บกวาด
จะไม่เหลือปราชญ์สักคนเห็น เป็นแก่นสาร
จึงให้เกิดน้ำไฟ มารอนราญ
แปดภัยผลาญพร้อมทำลาย ภัยสงคราม

กำหนดเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดภัย กระจายทั่วโลก
ส่งรากษสพญามารห้า มาก่อเรื่อง
หมื่นพันวิธีเก็บคนชั่ว อยู่เนืองเนือง
ดินฟ้าเสื่อมครบกำหนด หมดสิ้นชะตากาล
(รากษส คือยักษ์ร้าย ในที่นี้หมายถึงยักษ์ร้ายในคราบของคน)

อีกเพราะเหตุคนก่อกรรม คร่ำอาฆาต
ถึงโอกาสสงบบัญชี หกหมื่นปีแล้ว
หยกกับหินชั่วกับดี ถึงทีแบ่งแนว
แม่เห็นแล้วเลือดน้ำตา พาพรั่งพรู

ประตูนรกเปิด ปลดปล่อยผี ทวงหนี้ชีวิต
มืดสนิทน่าสะท้าน วิญญาณวาบวูบ
ใช้หนี้เคยทำเวรกรรมเงินทอง เคยจองพันผูก
โลกจะถูกสูบด้วยลมมหันต์ ถอนรากถอนโคน

ชำระหนี้ทั้งสามโลกเปลี่ยนแกนกลาง
แม้ร่างกายจะแกร่งเป็น เช่นเหล็กไหล
ไม่พ้นไฟประลัยกัลป์รอดไปได้
กำหนดภัยแม่สั่งความแต่น้ำตาเป็นเลือดนอง

ตายเจ็ดส่วน อีกสามส่วนทุกข์มหันต์
กระดูกถมกัน เลือดท่วมใหญ่ เป็นสายน้ำ
ลืมหลักอริยะ โลกีย์จิต คิดใฝ่ต่ำ
เก้าเก้าจะนำ มหันต์ภัยนรก หมกเศษวิญญาณ

อยากจะรอด ภัยทุกข์เข็ญ เร่งสร้างบุญ
พระจะหนุน ให้ลูกสำราญ ตามบัญชาแม่
คนตื่นใจตามแม่กลับนิพพานแท้
ไม่ตื่นแน่ เจอพิบัติภัย ขังในโลกันตร์

มิอดใจ ทำลายหยก หมกกับหิน
จึงตัดสิน หย่อนสายทอง ล่องเรือกู้
ทุกหนทาง หมื่นพันสาย ไม่ชุบชู
ชีวิตอยู่ หนทางเดียวคือ ขอรับวิถีธรรม”

“หวังว่าพุทธบุตรจะทำจริงให้รู้แจ้งในญาณตน
แล้วจงพากันคืนกลับยังดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์
ตื่นตัวได้รีบเพียรกลับบ้าน นิพพาน"

---------------------------------------------------------------
ภัยพิบัติลงมาจี้กงทนเห็นไม่ได้
จึงเปิดเผยความลับสวรรค์
บัดนี้ผู้บำเพ็ญธรรมสมควรทุ่มเท
ออกแรงรีบเร่งปฏิบัติบำเพ็ญธรรม
“ศิษย์ทั้งหลายต้องเร่งฝีเท้า
อย่าได้เฉื่อยชาอีกต่อไป
สามารถทำได้เท่าไหร่รีบทำ”

รายงานแผ่นดินไหวทั่วโลก




รายงานแผ่นดินไหวภายในประเทศและใกล้เคียง